วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2553

หาดวนกร สู่เพลินวาน หาอาหารทานที่ตลาดโต้รุ่ง

สงกรานต์ปีนี้ เป็นปีที่หยุดนานมาก ๆ เป็นประวัติกาล ตั้งแต่เราเกิดมาเห็นจะได้ เรากับโป้งหยุด 8 วัน ไอ้บ้าฮ้อน 9 วัน ส่วนหนุ่ยหยุดแค่ 3 วัน (Audit เข้าจึงต้องไปทำงาน) งานเข้าอะดิ๊ เราได้จองบ้านพักที่หาดวนกร ไปแล้วคือวันที่ 12 เมษายน 2553 วันอื่น ๆ จองไม่ทันคนจองกันหมดแล้ว บ้านหลังละ 1000 บาท (แต่จองตอนช่วงโปรโมชั่น ลด 30% เหลือ 700 บาท) จึงต้องไปกันก่อนแค่ 2 คนกับฮ้อน ส่วนหนุ่ยกับโป้งจะนั่งรถตู้ตามไป วันที่ 13 แทน(สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวจะมาเองก็สะดวกมาก ค่ารถคนละ 180 ขึ้นที่อนุสาวรีย์ ตรงโรงหนังเซ็นจูรี่ย์ มาหัวหินง่ายมาก ๆ บอกคนขับว่าจะลงที่ไหนเค้าก็จอดให้ลง เร็วดีนะ ไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็ถึงหัวหินแล้ว)
วันทื่ 12 ตื่น 7 โมงเช้าอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้าน 8.30น.(ไม่ต้องรีบเพราะจุดมุ่งหมายคืออช.หาดวนกรที่เดียว) ขับไปเรื่อย ๆ ไม่รีบไม่ร้อน ผ่านสมุทรสงครามแวะซื้อลิ้นจี่มากินเล่น 1 โล 100 บาท (แพงฉิบ) ทุกร้านแม่ค้าฉลาดหัวใสคือจะกางร่มสีแดงทุกร้าน มองไกล ๆ โห...ลิ้นจี่น่ากิน (รู้นะว่าเป็นแบบนี้ แต่ก็ช่วยซื้อเพราะจะได้อุดหนุนคนไทยด้วยกัน )พอจอดรถสิ มองใกล้ ๆ เหลือง ๆ ออกจะเขียว ๆ 555 แต่ก็ซื้อมากินเล่น ถ้าคนรู้จริง ๆ จะรู้แหละว่าไม่ใช่ลิ้นจี่อัมพวาของแท้หรอก เป็นลิ้นจี่ภาคเหนือนะ เพราะน้ำเยอะมาก ๆ และแวะทานข้าวแกงที่ร้านอาหารชมพู่ รสชาติก็ใช้ได้ (ดีกว่าร้าน....ร้านนั้นแหละที่เดลินิวส์แนะนำ ตั้งเยอะ เอาอีกเล่นไม่เลิก 555)




ระหว่างทางรถเยอะ แต่ก็ขับได้เรื่อย ๆ เพื่อนเต็มถนน เพราะช่วงนี้กรุงเทพฯน่าเบื่อมาก ๆ ไม่มีใครอยากมา เนื่องจากพวกเสื้อแดงประท้วงเพื่อคน ๆ เดียว ทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ประเทศไทยพ่ายแพ้ เพื่ออะไร (เพื่อเงินงัย) ยิ่งวันที่ 10 รัฐบาลยึดพื้นที่ประท้วงคืน ยิ่งเกิดจราจลกันใหญ่ ใช้อาวุธสงครามยิงกันคนตาย ณ ตอนนี้ก็ 20 กว่าคน บาดเจ็บ 800 กว่าคน เฮ้ย... นี่หรือประเทศไทย สงสารเหล่าทหารหารมาก ๆ ที่ต้องมาตาย น่าสงสาร พวกเค้าไม่ผิดเลย มาเพื่อหน้าที่ แต่คนอื่นหล่ะ มาเพื่ออะไร พวกคุณรู้แก่ใจดี เงินนี่มันซื้ออะไรได้เยอะแยะเนอะ ซื้อแม้กระทั้งความเป็นคน ช่างเถอะ อีกไม่นานเวรกรรมมันกำลังตามสนองเค้าแล้วหล่ะ มาต่อเรื่องของเราดีฝ่า (เดี๋ยวเครียด 555)

12.30น. ถึง อช.หาดวนกร(รวมขับรถ 4 ชั่วโมงแวะเข้าห้องน้ำ ทานอาหารด้วย ถ้าขับแบบรีบ ๆ 3 ชั่วโมงก็น่าจะถึงแล้ว)

ติดต่อห้องพัก รับกุญแจห้อง จอดรถที่หน้าห้องพัก (เดาเอาว่าเป็นห้องนี้ ดูจากในเวป ห้องอื่น ๆ คนพักกันหมดแล้ว เดินขึ้นไปไขกุญแจ ทำไมมันไขไม่ได้ฟะ ไอ้ฮ้อนเอาไปไขเอง ไม่ใช่แล้วเธอ ผิดห้อง เดินลงไปอีก มองไปทุก ๆ ห้องอีก เอะ มันต้องใช่สิ ก็เราจองห้องสุดท้าย ไม่แน่ใจใช่ห้องเราเปล่าว๊ะ เดินขี้นไปไขอีก ก็ยังไม่ได้อีก สักพัก เด็กห้องข้าง ๆ ตะโกน พี่ ๆ ครับ ไขกุญแจด้านหลังครับ แป่ววววว หน้าแตก เราเข้าทางหลังบ้านนะสิ จริง ๆ แล้วต้องเข้าทางหน้าบ้าน และหลังบ้านจะหันออกทะเล รีบขอบคุณและถอยรถไปจอดหน้าบ้าน แต่ไม่มีใครจอดเลย ทุกคนเล่นจอดหลังบ้านกันหมด เพราะว่าหลบแดดกันหมด เก็บของเข้าที่พัก เปิดประตูกระจกออกมา โห....สวยจังท้องทะเลสีฟ้าเข้ม ลมเย็นสบาย ภายในห้อง เป็นเตียงนอน 2 คน มีแอร์ โทรทัศน์ ระเบียงชั้นลอย เหมาะสำหรับนักธุรกิจ มาคำนวนตัวเลขได้เลยนะเนี่ย 555 เสียอย่างเดียวไม่มีตู้เย็น จริง ๆ บ้านพักให้นอนได้ 2 คน แต่เราดูห้องอื่น ๆ อีก 7 ห้อง มากันเป็น 10 คนเลย ทำให้คิดถึงพวกเพื่อน ๆ เลย อยากมาทำอาหารทะเลกินจริง ๆ เลย คงได้บรรยากาศหน้าดูเชียว








ไอ้ฮ้อนเข้าที่พักได้ก็นอน (แม่งไม่เคยหลับเคยนอนหรืองัย เดี๋ยวนี้นอนเก่งมาก ๆ หยุดสงกรานต์เนี่ยนอนวันละ 10 กว่าชั่วโมงเลยนะมึง) เราจึงเดินเล่น และถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ สวยดีจัง คนน้อยมาก ๆ ส่วนมากคนมักจะมากันแค่ชะอำ หรือเลยมาหน่อยก็หัวหิน แต่ไม่ค่อยมีใครเลยมาที่นี่ เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการความสงบ




นั่งชมวิวไปสักพักก็มีอาบังขับรถมาขายโรตี และปลาหมึกย่าง จึงจัดไปอย่าให้เสีย




ประมาณบ่าย ๆ ก็เดินเล่นกับไอ้บ๊อง เพี่อไปทานข้าว และถ่ายรูปบ้านพักต่าง ๆ เผื่อได้เตรียมไว้สำหรับคราวหน้าที่จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยว เล็ง ๆ เอาไว้สนใจอยู่หลายหลังเหมือนกัน ทุกหลังมองเห็นทะเลทั้งหมด น่าพักมาก ๆ



 







 และเก็บภาพเดี่ยวตัวเองด้วย เบื่อไอ้ฮ้อนมาก ๆ เลย ต้องบังคับให้มันถ่ายรูปให้ จัดภาพก็ไม่เป็น ถือกล้องก็ไม่ถนัด กดปุ่มผิดตลอด เซ็ง..หว่ะ รูปออกมา ซ้ำ ๆ กัน ไม่ใช่ถ่ายเยอะนะ แม่งเล่นก็เบิ้ล ๆ 2 ที่ บอกให้กดไปครึ่งหนึ่งก่อนเพื่อให้กล้องวัดแสง มันก็ทำไม่เป็น กดแรง ๆ เบื่อฉิบหาย แบบนี้แหละที่เค้าเรียกว่ามีผัวผิดคิดจนตัวตายเป็นแบบนี้แหละ ชาติหน้าไม่เจอกันแล้วนะ ฉันจะเกิดเป็นผู้ชาย ขอให้มันเกิดเป็นผู้หญิงบ้าง แต่กรู...ก็ไม่ขอเอามันทำเมียหรอกนะ 5555


















หลังจากเดินถ่ายรูปเสร็จก็มาหาอะไรเบา ๆ รองท้อง ก่อน คือส้มตำ ขนมจีน และลาบ ที่ร้านค้าสวัสดิการ ข้าง ๆ ร้านค้ามีบริการนวดแผนโบรานด้วย น่านวดชะมัดเลย ถ้ามาหลาย ๆ คนจะชวนไอ้โป้งนวดแน่นอน ฝากไว้ก่อน ราคาถูกแสนถูกด้วย ติดไว้ก่อนนะ คราวหน้าไม่พลาดแน่ ๆ





กลับมาห้องพัก ไม่มีอะไรทำ จึงนอนฆ่าเวลา ตื่นตอน 6 โมง นิด ๆ แดดหมดแล้ว จึงเปลี่ยนชุดไปลงเล่นน้ำ หน้าบ้านเรา เค้าติดป้ายเอาไว้ว่าระวังหอย ,หินบาด อันตรายให้ไปเล่นขวามือ จึงให้ฮ้อนขับรถไปหน้าร้านสวัสดิการ และลงเล่น น้ำใส แจ๋ว เย็นสบาย เล่นคนเดียวก็สนุกดี มาทั้งที น้ำก็ใส (ใสกว่าหาดสามพระยาอีก) เล่นประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็ขึ้น หนาวแระ

กลับที่พักล้างตัวข้างบ้านพักก่อนเข้าบ้าน สะดวกดีนะที่นี่ และให้ฮ้อนไปซื้ออาหารกล่องมาทานที่บ้าน อร่อยดี รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว ทานเสร็จก็ดูหนัง นอน..พรุ่งนี้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นดีฝ่า

ลืมตาตื่นตอนตี่ห้าครึ่ง เปิดม่านดู อู๊ยยยยังมืดอยู่เลย จึงนอนต่อ ตื่นอีกทีตอน 6 โมง ดูอีก พระอาทิตย์ ยังไม่ขึ้น นอนอีกดีฝ่า ตื่นอีกที่ 6 โมง กว่าๆ ตายแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้าไปแล้วง่ะ แงๆๆๆ ไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย จึงอาบน้ำ ไปหาอาหารเช้าทานที่ร้านค้าสวัสดิการดีกว่า สั่งข้าวต้ม กับกาแฟ รสชาติอาหารก็ใช้ได้ 2 คนก็แค่ 95 บาทเอง



กลับเข้าที่พัก เก็บข้าวเก็บของนอนดูโดเรม่อน โทรนัดแนะกับหนุ่ยและโป้ง ซึ่งตอนนี้ได้ขึ้นรถตู้แล้ว กำลังมุ่งหน้าสู่เพลินวาน เราจึงไปคืนกุญแจห้องพัก และซื้อเสื้อยึดสีส้มเป็นที่ระลึก 1 ตัวก่อนออกจากที่พักเวลา 9.30 น.แวะถ่ายรูปที่ป้าย อช.หาดวนกร มุ่งสู่หัวหินกัน




ระหว่างทางผ่านป้ายเขียนว่าด่านตรวจคนสิงขร สงสัยจึงเลี้ยวซ้ายเข้าไปดูเล่นดีกว่ามีอะไรให้ดูบ้าง จากถนนใหญ่เข้าไป 10 กว่าโล เอาน่า....แวะแป๊บเดียวคงทัน..หนุ่ยคงมาไม่ทันแหละ และก็ไม่เสียใจที่แวะเข้ามาที่ด่านสิงขร เพราะที่นี่เป็นที่ที่แคบที่สุดในประเทศไทย คิดว่าหลาย ๆ คนคงไม่เคยมาเหยียบแน่นอน 555




ร้านค้าไม่ค่อยเปิด จึงเดินเล่นที่ร้าน ร้านหนึ่งคนขายเป็นหญิงสาวชาวพม่า เดินดูเฟอร์นิเจอร์ ไม้สักเดินดูสักพัก จึงถามคนขายว่าขอถ่ายรูปได้ไหม เธอไม่ตอบ ยิ้ม ๆ ถามอีกว่าพูดภาษาอังกฤษได้ไหม เธอไม่ตอบอีก (ถ้าตอบได้ หล่ะกรูแย่แน่) ถามอีกพูดไทยได้ไหม เธอก็ไม่ตอบ จึงยกกล้องถ่ายรูปร้านค้าซะเลย เธอรีบเดินมาที่หน้ากล้อง อ๋ออออ เธอจะให้ถ่ายรูปเธอนั่นเอง จึงจัดไป และถ่ายรูปภายในร้าน และสักพักเธอสะกิดที่ไหล่บอกให้ถ่ายเธออีกตรงกองผ้า เออสวยดีเหมือนกัน แหมชอบถ่ายรูปก็ไม่บอก พอถ่ายเสร็จรีบวื่งมาดูใหญ่เลย แต่ถ่ายได้แค่ 2 รูปต้องหยุดถ่ายเพราะมีแขกเข้าร้านเราจึงแยกตัวออกมาและกลับออกเพื่อเดินทางต่อ



แวะปั้มเข้าห้องน้ำ ออกมาไม่เจอไอ้ฮ้อน รอ 5 นาที มันต้องเข้าไปในซุปเปอร์แน่ ๆ เลย จึงเปิดเข้าไป ใช่เลยมันต่อแถวจ่ายตังค์อยู่ ทำไมรู้ไหม มันซื้อพิซซ่า กับเป็บซี่กิน กว่าจะรอฟิซซ่าเย็น และรอมันอีกหมดอีก เสียเวลาไป 15 นาที หนุ่ยโทร.มาถึงเพลินวานแล้ว
แย่หล่ะสิ ด่าไอ้ฮ้อนใหญ่เลย เสียเวลาตรงเธอเนี่ย ส่วนไอ้ฮ้อนก็ว่าเราเสียเวลาที่ด่านเธอด้วย เราก็แย้งไปว่าฉันเผื่อเวลาของฉันแล้ว แต่ฉันไม่ได้เผื่อเวลาแวะปั๊มตั้ง 20 นาทีของเธอนี่
ออกจากปั๊ม เหลืออีก 25 กิโลจะถึงหัวหิน แต่รถติดมาก ๆ เพราะคนที่นี่เค้าออกมาเล่นสาดน้ำกันเร็วจัง ร้อน สุด ๆ น่าสนุกดี แต่ไม่ขอเล่นดีฝ่า ตัวสุกแน่ ๆ แถมเล่นเสร็จผิวดำ ๆ ของเราคงจะน่าดูเลย 555 จึงขอดูจะดีกว่า
ถึงเพลินวานตอนเที่ยงกว่า ๆ แดดร้อนสุด ๆ ที่จอดรถก็แทบจะไม่มี (เสียค่าจอด 40 บาท ถามคนรับจอดว่าจอดได้กี่ชั่วโมงกลัวคิดตังค์เพิ่มอีก เจ้าหน้าที่บอกจอดได้ไม่จำกัดชั่วโมง เราบอกโอ้โห อย่างนี้คนจอดหลายชั่วโมงทำงัย คนรับจอดรถตอบว่า ผมว่าแค่ชั่วโมงเดียวคุณก็ออกมาแล้ว 555 แบบงี้มันเข้าใจว่างัยเนี่ย)

ภายในเพลินวานคนเยอะมาก ๆ โทรหาน้องสาว และเจอกัน จึงเดินเล่นชมร้านค้าต่าง ๆ แต่ละร้านก็เหมือนกับที่เรา ๆ ท่าน ๆ ดูในโทรทัศน์แหละ สถานที่เล็ก ๆ ลึก ๆ (สงสัยที่จะแพงมาก ๆ จึงซื้อได้แค่นี้ ร้านค้ามี 2 ชั้น เดินเล่นข้างล่าง ร้อนจริง ร้อนจัง จึงเดินถ่ายรูปเรื่อย ๆ



















ที่ชั้น 2 ร้านอาหารแต่ละร้านคนแน่ขนัด ที่นั่งไม่ว่างเลย (เราว่าของแพงนะ แต่ละร้านตักอาหารนิดเดียวเอง สงสัยกลัวพวกคนรวย ๆ จะอ้วน )จึงไม่ได้ซื้ออะไรกิน เดินไปมาจึงเข้าไปนั่งกินไอศครีม คนละถ้วย เออ.. อร่อยดี เนิ้อนุ่มดี 4 ถ้วยก็เกือบ ๆ 200 บาทแพงเหมือนกันนะเนี่ยยย


และก็ถ่ายรูป ๆๆๆๆ




















ลืมบอกไปว่าวันนี่จะมีประกวดเทพีคนเคยงาม แต่เราก็มองเวที ไม่เห็นมีเลย มีตอน 1 ทุ่ม แต่พื่นที่มันน้อยมาก คงจะไม่สนุกแน่ เพราะสถานที่มันไม่ค่อยจะอำนวย และวันนี้ตามโปรแกรมเราจะมาก่อเจดีย์ทรายกัน จึงเดินไปเรื่อย ๆ โอ้แม่เจ้า ก่อเจดีย์ทรายเป็นอย่างไรรู้ไหม คือทางเจ้าหน้าที่ก่อกองทรายเอาไว้แล้ว และให้นักท่องเที่ยวซื้อพวงมาลัย และซื้อธงมาปักที่เจดีย์ทรายที่ก่อไว้แล้ว เงินทำบุญจะนำไปซื้อทรายเข้าวัด โธ่เราก็นึกว่าเราไปซื้อทรายเอง และก่อเอง ว้า... จุ๋มจิ๋มดีจริง ๆ




















เดินถ่ายรูปเรื่อย ๆ ออกมาข้างหน้าเก็บภาพด้านหน้าของเพลินวานเป็นที่ระลึกซะหน่อยเดี๋ยวเค้าจะหาว่าเชยไม่เคยมาเพลินวาน เบ็ดเสร็จสรรพ ใช้เวลาอยู่ในนั่น 1 ชั่วโมงกับ 15 นาที เออ..จริง ๆ ของคนที่รับจอดรถด้วยแหละ 555


















ออกจากเพลินวาน ก็โทร.ถามเกสท์เฮ้าท์ที่เราจะไปพัก จริง ๆแล้วเราโทร.จองอพาท์เม้นท์ตรงหัวหินซอย 40 เอาไว้ แต่วันที่ 8 เมษายน มีคนเข้ามา post ขายต่อห้องพัก ย่านตลาดโต้รุ่ง เราจึงเปลี่ยนแผน ยกเลิกที่เก่าซะ และมาเอาที่นี่แทน (โทร.คุยรายละเอียดเสร็จ โอนเงินเรียบร้อย แย่ละ บ้านพักเป็นพัดลม และทีจอดรถก็ไม่มีต้องจอดที่วัดหัวหิน เออะ ทำงัยได้หล่ะ จองไปแล้วก็คงต้องเลยตามเลย)ทางเข้าที่พักจริง ๆ ไม่ไกลจากที่เพลินวานเลย แต่เราไปวันสงกรานต์ นักท่องเที่ยวเล่นสาดน้ำกันเยอะมาก ๆ และถนนบางซอยก็ปิด แถมถนนที่เจ้าของห้องให้เลี้ยวดันมีขบวนแห่สงกรานต์อีก กว่าจะเข้าที่พักได้ เล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน

ถึงที่พักลักษณะก็เหมือนใน internet ห้องใหญ่มีโทรทัศน์ ก็ 450 บาท ห้องเล็กหน่อย ก็ 390 บาท ของเรา 3 ห้อง ห้องใหญ่ 2 ห้อง และห้องเล็ก 1 ห้อง เราไปกันแค่ 4 คนจึงคืนกุญแจห้องเล็กไป เผื่อว่าจะมีใครไม่มีที่พักราคาถูกจะได้แบ่ง ๆ กันนอน




เข้าที่พักก็เอารถไปจอดที่จอดรถตู้ แต่ไอ้ฮ้อนบอกว่าไม่มีคนเฝ้ารถ จึงเปลี่ยนไปจอดที่วัดหัวหินแทน ค่าจอด 40 บาท ประตูปิดตอน 4 ทุ่มกว่า และเปิดอีกทีตอนตีห้า อือออออแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ที่พักเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้นำรถมาเอง ก็มาลงที่จุดจอดรถตู้ หรือรถไฟ เดินเข้าที่พักได้เลย สะดวกดีสำหรับวัยรุ่นและชาวต่างชาติ ที่ต้องการความสะดวก และที่พักก็ราคาถูก ห้องของเราอยู่ชั้นล่างก็ปลอดภัยดีนะ เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มาพักหัวหิน มีคีย์การ์ด เข้า - ออกด้วย เจ้าของชื่อคุณหนูก็น่ารักดี เป็นกันเองดี ก็โอเคดี เหมาะสำหรับ คนที่จะมาเดินทานอาหารที่ตลาดโต้รุ่งอย่างเราจริง ๆ หิวแล้ว ก็ออกมาหาอะไรกินที่ร้าน หัวหินซีฟู้ด สั่งอาหารจานด่วนทาน ข้าวพัด และ ต้มยำ พอทานเสร็จ ก็เข้าที่พักนอนเอาแรง คืนนี้เถอะมึง จะกินให้ท้องแตกเลยยยย

18.30 น.ออกมาเดินที่ตลาดโต้รุ่ง โหหหหห ต่างกันกับเมื่อกี้นี้เลย จากถนนมีรถวิ่ง กลายเป็นถนนคนเดิน แล้ว และมีร้านค้ามาตั้งร้านขายของกันเต็มไปหมดแล้ว
ร้านแรก คือทำเทียน รูปมือต่าง ๆ น่าสนใจดี แต่แพงเนอะ 100 บาทสีขาว และ 150 บาท ใส่สีตามใจเรา



เดินต่อมาก็ซื้อขนมครกโบราณ (ใส้ผัก) เอา 20 บาท แม่ค้าใจดี บอกว่าอยากมีส่วนร่วมมั๊ย ให้เราแคะขนมครกเอง เอาดิ๊ สนุกดี ครั้งแรกในชีวิตของทุกคน ช่วยกันแคะใหญ่เลย ของเราทั้งครก แม่ค้ายังชมเลยว่า แคะสวย ไม่ฉีกขาด และไส้หายเลย ลูกค้าบางคนฉีกขาดตลอด มันช่างเป็นเทคนิคของแม่ค้าจริง ๆ (เนื่องจากคนเริ่มมาจ่อคิว แล้ว ขายคนเดียวทำไม่ทันจึงให้ลูกค้าทำเอง ช่างเป็นกลยุทธที่เรียกลูกค้าดีจริง ๆ แถมรสชาติอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว






 ตามมาดูดีกว่าว่าจบคืนนี้เราจะทานไปกี่ร้าน ถัดมาก็ร้านชิคกะบับ มี 2 แบบให้เลือกคือเนื้อไก่ และเนื้อวัว แต่เราต้องซื้อเนื้อไก่ เพราะหนุ่ยไม่กินเนื้อ ซื้อมารองกินก่อน 1 ชิ้น เพราะยังมีอีกหลายร้านให้เราเลือกกิน รสชาติก็อร่อยดี แต่จะให้อร่อยต้องเนื้อถึงจะอร่อย ไม่เป็นไรเดี๋ยวขากลับจะแวะมาซื้อเนื้ออีก



















ร้านค้าหลาย ๆ ร้านก็จะขายเสื้อผ้า ที่ระลึก ของประดับ น่ารัก ๆ และมาหยุดที่ โรตีอินเตอร์ ไม่มากินถึอว่ามาไม่ถึง สั่งไป 2 หน้า คือธรรมดา และไส้กล้วย (อือ รสชาตินุ่มอร่อยดี สมกับคำร่ำรือเหมือนกัน)




















ผ่านร้านไอศครีมเจ๊นิ คนเยอะมาก ๆ ฝากไว้ก่อน จึงแวะทานก๋วยจับ คนละชาม (หวานไปหน่อย)




ออกจากร้านก๋วยจับ ก็มาที่ร้านไอศรีมเจ๊นิ คนเยอะ มาก ๆ เราได้ที่นั่งและไม่รีรอ รีบสั่งมาทานคนละถ้วย เราว่าเสียความรู้สึกนะ บอกกันใน net ว่าอร่อยนัก อร่อยหนา แต่เราว่าแย่ที่สุดตั้งแต่เรากินมา เนื้อไอศครีมไม่นุ่มเลย ไม่อร่อยง่ะ (ที่เพลินวานอร่อยกว่าเยอะ หรือจะพูดว่าตั้งแต่เรากินไอติมมา ที่นี่แย่สุด ๆ ง่ะ ความเห็นส่วนตัวนะจ๊ะ 555 )



ผิดหวังจากร้านเจ๊นิ ก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ แวะทานหวานเย็น ร้านนี้ดีกว่า คนเยอะอีกตามเคย ทั้ง 4 คนสั่งเหมือนกันถือมะพร้าวกะทิ และ อีกคนละอย่าง อร่อยใช้ได้ กะทิเค้าสดและหอมดีจัง

ออกจากร้านหวานเย็นจะซื้อกะลอจี้ (ของชอบหนุ่ย) แต่คนเยอะเลยไม่ได้ซื้อ



หนุ่ยกับโป้งแวะซื้อเสื้อที่ระลึกหัวหินคนละตัว เดินมาเรื่อย ๆ เจอร้านพวงกุญแจ รูปสัตว์ และรูปภาพต่าง ๆ ใส่ชื่อตัวเองได้ จึงจัดไปคนละพวง พวงละ 79 บาท ไอเดียดี (คิดก่อนทำก่อนได้เงินเยอะมาก ๆ เลย ดูจาก order ที่เค้าทำเสร็จและเสียบเหล็กแหลมไว้ เจ้าของร้านทำไม่ทันอีกแล้ว ให้เรามีส่วนร่วมอีกแล้ว จึงช่วยเค้าแกะแผ่นอะคลีลิค (สะกดถูกเปล่า) และไขน็อตเอง ก็สนุกไปอีกแบบ



เดินดูของไปเรื่อย ๆ จับท้องตัวเอง แข็งโป๊กจะแตกอยู่แล้ว จึงเข้าที่พัก อาบน้ำ พอจะนอน เราบอกหนุ่ยเราหิวอีกแล้วง่ะ ให้ไอ้ฮ้อนไปซื้อชิดกะบับ เนื้อให้กินหน่อย ฮ้อนไปนาน หนุ่ยอาบน้ำเสร็จ ออกไปกินผัดไทกันดีฝ่า น่าอร่อยนะ แถมหิวอีกแล้วด้วย




















ออกมาอีกรอบ ตอนนี้ตลาดเริ่มวายแล้ว หลาย ๆ ร้านขายหมด แล้ว นักท่องเที่ยวน้อยลง เรากับหนุ่ยจึงแวะทานผัดไทคนละจาน ส่วนโป้งทานหอยทอด และซื้อลูกชิ้นปิ้งมากินเล่นอีกคนละไม้ อร่อยดี ทานเสร็จอิ่มละ เดินมาเจอร้านขายกะปิหวาน ร้านนี้เค้าดังนะ ออกรายการตลาดสดสนามเป้าด้วยแหละ แถมท่านนายกสุดหล่อ (อภิสิทธิ์) ก็ยังเคยมาชิมเลย จึงจัดไป 1 ชุด อิ่มละเข้านอนดีฝ่า เบ็ดเสร็จคืนนั้นเข้านอน ตอน เที่ยงคืนกว่า ๆ



8.30 น.ตื่นตอนเช้า อาบน้ำแต่งตัว ออกมาหาอะไรทานที่ตลาดฉัตรชัย คนเยอะมาก ๆ ขนาด 9 โมงกว่า ๆ แดดร้อนสุด ๆ เจอร้านกล้วยแขกเจ้าดัง คือจบพาณิชย์แต่มาเอาดีทางทอดกล้วย ก็จัดไปอย่าให้เสีย และทานข้าวมันไก่ และข้าวหน้าเป็ด และซื้อลูกหว้า (แต่ต้องร้องว้า.....ฝาดจังเคยซื้อที่กรุงเทพฯ อร่อยกว่าเยอะเลย)




















ก่อนกลับเข้าที่พัก เช็คเอ้าท์ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ แวะร้านแม่กิมไล้ ซื้อของฝาก และแวะร้านขายลูกตาลสด ร้านประจำ ฮ้อนงี่เง่าขับรถเลนนอก ไม่เข้าเลนใน ดีนะรถจอดได้ และหนุ่ยกับโป้ง ต้องวิ่งข้ามถนนมาซื้อ ลูกตาล และน้ำตาลสดกลับไปฝากพ่อ กับแม่ เพราะทั้งสองคนชมว่าอร่อยใครจะซื้อก็ได้นะ ร้านถึงก่อน แม็คโคร หน้าปั้ม่น้ำมันร้าง ๆ (ตราดาว) ไม่อยากเปลี่ยนเจ้า เจ้าไหนอร่อยก็ซื้อเจ้านั้นเลยจะดีกว่า ชัวร์กว่า ถึงกรุงเทพฯปลอดภัย ส่งหนุ่ยที่บ้านกลับมา ปวดหัวมาก ๆ สงสัยจะไม่สบาย กินพาราไป 2 เม็ดเข้านอน ราตรีสวัสดิ์ พบกันใหม่ทริปหน้า ไม่รู้ว่าที่ไหน (แต่ที่แน่ ๆ ทริปไหว้พระ 9 วัด นอนบ้านโฮมสเตย์ อยุธยาเป็นหมันซะแระ 555) บายยยย จุ๊บบๆๆๆ

ปล.ระยะทางไป-กลับ 640 กิโล ใช้น้ำมันไป 1300 บาท (29.89 บาท/ลิตร) ค่าบ้านหาดวนกร 700 บาท ค่าที่พักเลสโบโบ้ 1000 บาท ค่าอาหารไม่ได้คิด ใครเร็วใครจ่าย จึงคิดไม่ได้ จำไม่ได้ 555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เชิญติชมได้ดั่งใจนึก.....